รถยนต์จัดได้ว่าเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกอย่างที่หลายครอบครัวโดยเฉพาะครอบครัวที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองจำเป็นจะต้องมีเอาไว้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง เหตุผลในการใช้งานของแต่ละคน แต่ละครอบครัวสำหรับการซื้อรถก็แตกต่างกันไป ยิ่งในประเทศไทยต้องยอมรับว่าแม้ระบบการคมนาคมขนส่งจะเริ่มเข้ามามีบทบาทกับคนในเมืองมากขึ้น แต่พอเอาเข้าจริงความสะดวกสบายที่ได้รับจากการคมนาคมขนส่งยังเป็นกับแค่เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น ด้วยเหตุนี้คนไทยเองจึงยังคงนิยมใช้รถกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อนึกถึงการซื้อรถก็ต้องนึกถึงการอย่าง Motor show ที่จะทำให้คุณได้พบกับนิทรรศการรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
หากว่ากันตามเนื้อผ้างาน Motor show ก็คืองานแสดงสินค้าประเภทหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์การจัดงานมาอย่างยาวนานโดยผู้ริเริ่มจัดงานแสดงรถยนต์แบบนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยก็คือ ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ที่เป็นเจ้าของนิตยสารกรังด์ปรีซ์ และเป็นเจ้าของบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ตอนนั้นเจ้าตัวพึ่งเริ่มเข้ามาอยู่ในวงการนิตยสารรถยนต์ได้ไม่กี่ปีเท่านั้น แต่กลับมีความคิดว่าควรที่จะมีการทำอะไรให้มันน่าสนใจจึงได้มีการคิดจัดประกวดรถยนต์ขึ้น จนประชาชนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเมื่อทุกอย่างลงตัวจึงได้มีการร่วมมือกับบริษัทค่ายรถยนต์ใหญ่ต่างๆ เกิดขึ้นมาเป็นงาน Motor show ครั้งแรกในประเทศไทยที่สวนลุมพินี เมือเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2522 ก่อนที่จะมีการจัดแบบนี้มาทุกๆ ปี ค่อยๆ พัฒนาความยิ่งใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของงานมอเตอร์โชว์ที่จัดก็เพื่อต้องการจะให้ค่ายรถยนต์นำเอานวัตกรรมใหม่ๆ ของค่ายตัวเองนำมาแสดงให้กับกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ได้เห็นว่ารถยนต์แต่ละค่ายมีการพัฒนาไปทางด้านไหนบ้าง แต่ถ้าหากมองในมุมของค่ายรถยนต์สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดก็คือมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ความสนใจในการซื้อรถกับพวกเขา เป็นลักษณะของการที่ต่างฝ่ายต่างก็พึ่งพาอาศัยกันแบบสุดฤทธิ์
งาน Motor show ส่วนมากมักจะจัดในช่วงต้นปี หรือประมาณช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน ในทุกๆ ปีที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะคนไทยเองก็ยังคงให้ความสนใจในการโชว์รถงานนี้อย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน อีกทั้งเรามักจะได้เห็นโปรโมชั่นพิเศษจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่พยายามแย่งกลุ่มลูกค้ากันตลอด นับว่าเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ทั้งจากตัวผู้ซื้อและผู้ขายเอง เป็นประโยชน์ทีต้องบอกว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนอย่างแท้จริง